วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2554

วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร

ประวัติวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร

ตำบลพระสิงห์ เขต 1 อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ วัดพระสิงห์ วรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิด วรมหาวิหาร ตั้งอยู่ ณ เลขที่ 2 ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ เขต 1 อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

ลักษณะพื้นที่ ของวัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมมีถนนล้อมรอบทั้งสี่ด้าน เขตพุทธาวาสอยู่ส่วนกลางของวัด รอบเขตพุทธาวาสเป็นสนามหญ้า ลานคอนกรีต และไม้ยืนต้น และมี อาคารเรียนโรงเรียนธรรมราชศึกษา อาคารเฉลิมพระเกียรติ อาคารพระธรรมสิทธาจารย์ อาคารเรียนพระปริยัติธรรม ศาลาสมเด็จกิตติโสภณ และศาลาสหัส - หงส์ มหาคุณ อนุสรณ์ ตั้งอยู่รอบเขตพุทธาวาส ส่วนเขตสังฆาวาสมีถนนซอยและกุฏิสงฆ์สร้างเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ แบ่งเป็นคณะปกครอง ซึ่งปัจจุบันมีการปกครองทั้งสิ้น 7 คณะ


ประวัติวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร
วัดพระสิงห์ วรมหาวิหาร เป็นพระอารามที่พระเจ้าผายูทรงสถาปนาขึ้น เมื่อพุทธศักราช 1888 เดิมเรียกว่าวัดลีเชียง เหตุที่เรียกชื่อนี้เพราะสมัยก่อนนั้นที่หน้าวัดเป็นท้องสนามกว้างเป็นที่ตั้งของตลาดเมือง ประชาชนต่างมาประชุมซื้อขายสินค้ากันภายในบริเวณนี้ คำว่าตลาด เดิมเรียกว่า ลี และคำว่าเมือง เรียกว่า เชียง จึงเป็นเหตุให้เรียกชื่อพระอารามที่พระเจ้าผายูทรงสถาปนาขึ้นนี้ว่าวัดลีเชียงไปด้วย

จากนั้นประมาณ พ.ศ. 1943 เจ้ามหาพรหม ได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาจากกำแพงเพชร มีพระประสงค์ที่จะนำไปถวายแด่พระเจ้าแสนเมืองมา และพระเจ้าแสนเมืองมาเมื่อทรงรับแล้วมีพระราชประสงค์ที่จะอัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดบุปผาราม (วัดสวนดอก (พระอารามหลวง) ในปัจจุบัน)

ยกฐานะเป็นพระอารามหลวง
มาถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 แห่งพระบรมราชวงศ์จักรี ทรงพระกรุณาโปรดให้ประกาศยกฐานะวัดพระสิงห์ จากวัดราษฎร์ ขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 30 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2483 จึงได้นามเพิ่มในทางราชการว่า วัดพระสิงห์ วรมหาวิหาร
ปูชนียวัตถุและถาวรวัตถุ
1. พระพุทธสิหิงค์ หรือพระสิงห์ เป็นพระพุทธรูปหล่อสำริดลงรักปิดทอง หน้าตักกว้าง 1 เมตร สกุลช่างแบบเชียงแสน สร้างขึ้นในสมัยพุทธศตวรรษที่ 8 หรือประมาณ พ.ศ. 700

2. พระเจ้าทองทิพย์ หรือ พระสิงห์น้อย พระเจ้าติโลกราช กษัตริย์องค์ที่ 12 แห่งราชวงศ์มังราย โปรดให้สร้างขึ้น พ.ศ. 2020 หน้าตัก 14.5 นิ้ว สูง 21 นิ้ว หนัก 27 กิโลกรัม ฝังอัญมณีมีค่าต่างๆ รอบฐาน

3. พระอุโบสถ มีรูปลักษณะเป็นแบบพิเศษ แตกต่างกับอุโบสถโดยทั่วไป เรียกว่าอุโบสถสองสงฆ์ พระอุโบสถเป็นโบราณสถานเก่าแก่ พระยาแสนเมืองมา กษัตริย์องค์ที่ 10 แห่งราชวงศ์มังรายทรงสร้างไว้ ประมาณ พ.ศ. 1931 - 1954 และได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์เรื่อยมาตามลำดับ

4. พระวิหารหลวง เป็นสถาปัตยกรรมลานนา ขนาดกว้าง 24 เมตร ยาว 46 เมตร พระวิหารหลวงหลังเดิมชำรุดทรุดโทรมไปจนไม่สามารถที่จะบูรณปฏิสังขรณ์ได้ จนถึง พ.ศ. 2467 - 2468 ท่านครูบาศรีวิชัย สิริวิชโย ร่วมกับ พลตรีเจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าหลวงเชียงใหม่องค์ที่ 9 ร่วมกับประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมกันสร้างขึ้นใหม่แทนหลังเดิม

5. พระวิหารลายคำ เป็นสถาปัตยกรรมลานนาไทย ขนาดกว้าง 8 เมตร ยาว 30 เมตร สร้างแต่สมัยราชวงศ์มังราย และได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์เรื่อยมาตามลำดับ

6. หอพระไตรปิฎก พระเจ้ากาวิละ เจ้าหลวงเชียงใหม่องค์ที่ 1 โปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2354

7. พระมหาเจดีย์ หรือ พระธาตุหลวง สูง 25 วา ฐานสี่เหลี่ยมยาวด้านละ 16 วา 1 ศอก 6 นิ้ว พระเจ้าผายูโปรดให้สร้างขึ้น พ.ศ. 1888 และครูบาศรีวิชัยได้บูรณปฏิสังขรณ์ใน พ.ศ. 2469

8. กู่ลาย ตั้งอยู่หลังพระวิหารลายคำ เป็นเจดีย์ทรงปราสาท มี 5 ยอด มีทางเชื่อมจากผนังด้านหลังพระวิหารลายคำเข้าสู่อุโมงค์ของกู่ลาย เป็นสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมของลานนา

9. กู่อัฐิพระยาคำฟู พระเจ้าผายู พระราชโอรส ได้นำพระอัฐิและพระอังคารมาบรรจุไว้ที่บริเวณนี้ เมื่อ พ.ศ. 1888 และเพื่อไม่ให้เป็นเสียเวลาจึงทรงโปรดสถาปนาพระอารามนี้ขึ้นด้วย

10. พระวิหารพระพุทธไสยาสน์ หรือพระวิหารพระนอน สร้างขึ้นประมาณ พ.ศ. 2094 และได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์มาเป็นลำดับ

11. หอพระไตรปิฏกหลังใหม่ ตั้งอยู่ใกล้พระเจดีย์ด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ สร้างเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2469 สร้างในสมัยของพลตรีเจ้าแก้วนวรัฐ ผู้บริจาคทรัพย์ในการก่อสร้างคือ หลวงอนุสารสุนทร และนางอนุสาน ชัวย่งเสง

12. ศาลาสมเด็จกิตติโสภณ เป็นอาคารทรงไทย กว้าง 5 วา 2 ศอก ยาว 10 วา 2 ศอก สูง 6 วา สร้าง พ.ศ. 2492 โดยทุนเริ่มต้นจากการถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน โดยการนำของ เจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (ปลด กิตฺติโสภณมหาเถร ป.ธ. 9) วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม และศาลาหลังนี้สร้างเป็นอนุสรณ์ของสมเด็จพระสังราช พระองค์นี้ด้วย

13. ศาลาสหัส - หงส์ มหาคุณ อนุสรณ์ เป็นศาลาทรงไทย 2 ชั้น กว้าง 13 เมตร ยาว 38 เมตร สูง 22 เมตร สร้าง พ.ศ. 2513 ด้วยเงินบริจาคของบริษัทสุรามหาคุณ จำกัด

14. อาคารพระธรรมสิทธาจารย์ เป็นอาคารรูปตัวแอล (L) สูง 5 ชั้น กว้าง 11 เมตร ยาว 76 เมตร พระเดชพระคุณ พระธรรมสิทธาจารย์ ร่วมกับคณะศรัทธาประชาชนร่วมกันสร้างเมื่อ พ.ศ. 2539

15. โรงเรียนธรรมราชศึกษา เป็นโรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนา ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2503 โดยพระเดชพระคุณ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ฟู อตฺตสิโว ป.ธ. 6) ครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระธรรมราชานุวัตร เป็นองค์ผู้ก่อตั้ง ปัจจุบันมีอาคารเรียน 3 หลัง และมีอาคารห้องสมุด 1 หลัง และโรงอาหาร 1 หลัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น