วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2554

วันศุกร์แห่งชาติ

 ใครติดเพื่อนบ้าง...ยกมือขึ้น!!! เชื่อแน่ว่า จะต้องมีเพื่อน ๆ ที่นั่งอยู่หน้าจอคอมพ์ขณะนี้ยอมรับกันอยู่ในใจแน่ ๆ เลย เพราะเป็นธรรมดาที่วัยรุ่น วัยเรียน วัยทำงาน หรือแม้แต่ในวัยที่มีครอบครัวของตัวเองแล้ว ก็ยังไม่วายติดเพื่อน เป็นต้องออกไปพบปะสังสรรค์กันนอกบ้านเป็นประจำ (ก็มันสนุกนี่นา)
          และหลายครั้งที่ปาร์ตี้ในหมู่เพื่อนกินเวลายามค่ำคืนจนนาฬิกาบอกเวลาก้าวเข้าสู่วันใหม่เข้าไปแล้ว แต่รู้ไหมว่า ในช่วงที่เรากำลังสนุกสนานอยู่นั้น ยังมีคนข้างหลังคอยเป็นห่วงอยู่ที่บ้าน เขาคนนั้นยังนอนไม่หลับแม้จะรู้ว่าวันนั้นคุณจะกลับดึก ด้วยเป็นห่วงว่าคนที่รักยังไม่ถึงบ้านอย่างปลอดภัยนั่นเอง
          ดังเช่นเรื่องราวที่เรานำมาฝากกันวันนี้ จากคุณ ใส่หมวกแก๊ปไปเดินกุ๊บกั๊บ  สมาชิกเว็บไซต์พันทิป ที่บังเอิญได้ยินคำพูดธรรมดาคำหนึ่งของคนเป็นแม่ ในวันที่เขาออกไปสังสรรค์กับเพื่อน ๆ นั่นเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขาเปลี่ยนใจและเปลี่ยนแปลง ซึ่งเรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า...

          เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ก็เป็นธรรมดาของมนุษย์เงินเดือน ที่วันศุกร์แห่งชาติ (และเป็นวันเงินเดือนออก) จะมีการนัดสังสรรค์กันระหว่างเพื่อน ๆ มีดื่ม มีเที่ยว เพราะถือว่าเป็นวันปลดปล่อยของสัปดาห์ หลังจากดื่มได้พอสมควร ก็รวมกลุ่มกันไปโต๊ะสนุ๊กฯ ต่อ กว่าจะได้กลับก็เกือบ ๆ ตีสอง

          กลับมาก็เห็นแม่นอนดูทีวีอยู่ ก็ยังสงสัยว่าทำไมนอนดึกจัง เราก็ง่วงบวกกับมึน ๆ ด้วย ก็เลยเข้านอนเลย ไม่ได้ทักแม่ซักคำ
          รุ่งขึ้นเป็นวันเสาร์ ผมก็ตื่นตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า เพราะตื่นเวลานี้เป็นปกติแล้ว (แต่ก็ยังไม่เคยตื่นก่อนแม่ซักที)
          ประโยคแรกที่เราทักแม่ก็คือ "แม่ วันนี้มีอะไรกิน"
          หลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว วันนี้ครอบครัวผมมีธุระต้องเข้ากรุงเทพฯ ระหว่างทางแม่ผมก็คุยกับพี่ชายเรื่องทั่ว ๆ ไป ผมก็นั่งอ่านหนังสืออยู่เงียบ ๆ ได้ยินแม่บ่นเรื่องทั่ว ๆ ไป และก็พูดว่า...
          แม่ : วันนี้ง่วงนอนจัง
          พี่ชาย : ไปทำอะไรมาล่ะแม่
          แม่ : ก็ไม่ได้ทำอะไร เมื่อคืนไอ้...(ชื่อผม) มันยังไม่กลับบ้าน แม่ก็นอนไม่หลับ
          ผม : ...........
          จากนั้นเค้าก็คุยกันเรื่องอื่น แต่ประโยคดังกล่าว มันทำให้ผมกลับมาคิดว่า ในวันแรกที่เงินเดือนออก แทนที่เราจะพาคนที่รักและเป็นห่วงเราไปกินข้าว เรากลับเลือกที่จะออกไปสังสรรค์กับเพื่อน ไปกินเหล้า เมายา เล่นการพนัน
          แต่เรากลับทิ้งให้อีกคนหนึ่งที่เป็นห่วงเรา อดนอน เพื่อรอว่าเราจะกลับถึงบ้านโดยปลอดภัยแล้ว เมื่อเรากลับถึงบ้าน เมื่อนั้นแหละ เค้าคนนั้นถึงจะหลับลง
        
          จากเหตุการณ์นี้ทำให้เรานึกย้อนไปถึงครั้งก่อน ๆ ถ้าเรากลับบ้านดึก แม่จะโทรตามทุกครั้ง จะไม่ได้ดุด่าหรือว่าอะไร เพียงแต่จะถามว่า "อยู่ไหน ดึกแล้วนะ พรุ่งนี้ไม่ทำงานหรอ..." เมื่อเรากลับมา ก็จะพบว่าแม่ยังไม่นอนเสมอ ทำให้เราได้ย้อนกลับมาคิดได้ว่า ถึงแม้เราจะเป็นผู้ชาย และอายุก็ไม่ใช่เด็ก ๆ มีหน้าที่การงานแล้ว แต่ด้วยความที่เป็นแม่ ยังไงก็ยังเป็นห่วงลูก ถ้าลูกยังไม่กลับถึงบ้าน ก็อดที่จะห่วงไม่ได้
          วันถัดมาเพื่อนผมก็ชวนออกไปกินสังสรรค์อีก แม่ได้ยินผมคุยโทรศัพท์ในรถ ก็บอกว่า... "ถ้าไม่อยากไปกับเพื่อนก็ปฏิเสธได้ ต้องปฏิเสธคนให้เป็น" (แม่จะรู้นิสัยผมว่าเป็นคนปฏิเสธคนไม่เป็น) ผมจึงตัดสินใจบอกเพื่อนไป
       
          ผม : "วันนี้กรูไม่ไปนะ"
          เพื่อน : "ทำhaอะไร ทำไมถึงไม่มา"
          ผม : "กรูจะพาแม่กรูไปกินข้าว"

          จากเรื่องราวข้างต้นจะเห็นได้ว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่อาจเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ในชีวิตประจำวันของใครหลายคน แต่...เพียงแค่เราหันมาใส่ใจคนใกล้ตัวที่เรามักจะมองข้ามบ้าง ก็จะรับรู้ได้ถึงความรักลึกซึ้งจากคนที่รัก โดยเฉพาะคุณแม่ และนั่นอาจสร้างจุดเปลี่ยน หรือมุมคิดดี ๆ ที่จะทำให้คุณเป็นลูกที่น่ารักขึ้นเป็นกอง

วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2554

แบบร่างสัญญา 400 กว่าแบบ

แบบร่างสัญญา 400 กว่าแบบ ผมคิดว่า มีประโยชน์นะครับ




Part01 ลิ้งดาวน์โหลด  : http://www.mediafire.com/?1yoshww4hs2em10

วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2554

พ่อแม่รังแกฉัน (บาป ๑๔ ประการของมารดาบิดา)

พ่อแม่รังแกฉัน (บาป ๑๔ ประการของมารดาบิดา)

พ่อแม่บางคน (๑)
    ทำร้ายลูกด้วยการรักเขามากเกินไป ผลก็คือเกิดภาวะรักจนหลง ลูกของตนถูกทุกอย่าง ลูกของตนดีกว่าคนอื่นเสมอ อันส่งผลให้ลูกกลายเป็นคนมีอัตตาสูง เชื่อมั่นตนเองในทางที่ผิด ชอบดูถูกคน เป็นตัวปัญหา แต่ไม่ยอมรับว่าตนเป็นคนสร้างปัญหา
พ่อแม่บางคน (๒)
    ทำร้ายลูกด้วยการตามใจเขามากเกินไป ผลก็คือพ่อแม่กลายเป็นข้าช่วงใช้ของลูก ส่วนลูกกลายเป็น “ลูกบังเกิดเกล้า” ที่พ่อแม่ต้องยอมให้เขาทุกอย่าง  ที่หนักกว่านั้นก็คือ ถ้าพ่อแม่ไม่ยอมตามที่ลูกต้องการลูกบางคนก็ถึงขั้นทุบตีทำร้ายพ่อแม่
พ่อแม่บางคน (๓)
    ทำร้ายลูกด้วยการไม่กล้าห้ามปรามสั่งสอนเมื่อลูกทำผิด ทำเลว ทำบาป  ผลก็คือ ลูกสูญเสียสามัญสำนึก แยกแยะถูกผิดดีชั่วไม่เป็น มองไม่เห็นเส้นแบ่งทางจริยธรรมว่า ดีเป็นอย่างไร ชั่วเป็นอย่างไร จึงกลายเป็นนักเลงอันธพาล  ระรานคนเขาไปทั่ว
พ่อแม่บางคน (๔)
    ทำร้ายลูกด้วยการให้เงินลูกเพียงอย่างเดียว  ผลก็คือ  ลูกไม่รู้จักคุณค่าของเงิน  ไม่เห็นคุณค่าของผู้ที่หา/และให้เงิน  ยิ่งได้เงินมาก  ยิ่งผลาญเงินเก่ง  มีเงินเท่าไหร่ก็ไม่พอใช้  และทั้งๆที่ใช้จ่ายเงินสูง  แต่กลับมีคุณภาพชีวิตต่ำ
พ่อแม่บางคน (๕)
    ทำร้ายลูกด้วยการไม่ยอมให้ลูกเรียนรู้ที่จะพึ่งตนเอง เกรงว่าหากให้ลูกทำอะไรด้วยตนเองแล้วเขาจะลำบาก ผลก็คือเมื่อโตขึ้นลูกกลายเป็นลูกแหง่ที่พึ่งตนเองไม่ได้ ทำอะไรด้วยตนเองไม่เป็น ยิ่งเติบโตยิ่งเป็นตัวปัญหาของสถาบันครอบครัว
พ่อแม่บางคน (๖)
    ทำร้ายลูกด้วยการไม่ยอมส่งเสริมให้ลูกได้รับการศึกษาที่ดี มัวแต่สนใจลงทุนในการทำธุรกิจเป็นร้อยเป็นพันล้าน แต่ไม่รู้จักลงทุนในการสร้างลูกให้เป็นปัญญาชน ผลก็คือลูกเติบโตแต่ตัว แต่ทว่ามีสติปัญญาที่ต่ำต้อย ขาดทักษะการคิด การใช้เหตุผล การทำงาน การเข้าสังคม เขาไม่เพียงแต่ไม่สามารถร่วมเป็นสมาชิกที่ดีของสังคมเท่านั้นแต่ยังสร้าง ปัญหาให้สังคมอีกต่างหาก
พ่อแม่บางคน (๗)
    ทำร้ายลูกด้วยการทำแต่งานสังคมสงเคราะห์นอกบ้าน โดยลืมไปว่าคนที่ตนต้องสงเคราะห์ก่อนดูแลก่อนต้องให้ความรักก่อนก็คือลูก ผลก็คือแม้จะกลายเป็นนักสังคมสงเคราะห์ที่ประสบความสำเร็จนอกบ้าน สังคมสรรเสริญ แต่กลับเป็นพ่อแม่ที่ล้มเหลวในบ้าน และลูกกลายเป็นเด็กที่ขาดความรัก ความอบอุ่น  ไม่พร้อมจะแบ่งปันความรักและความอบอุ่นให้ใคร
พ่อแม่บางคน (๘)
    ทำร้ายลูกด้วยการไม่รู้จักยกย่องชมเชยลูกเมื่อเขาประสบความสำเร็จในการเรียน ในการทำงาน หรือในการทำกิจกรรมใดๆก็ตาม ผลก็คือลูกกลายเป็นคนใจคอคับแคบ ยกย่องชมเชยใครไม่เป็น เมื่อเห็นคนอื่นได้ดีมีความสำเร็จ เขาจึงเป็นนักอิจฉาริษยาตัวฉกาจ ที่จ้องแต่จะหาทางทำลายคุณงามความดีของคนอื่น
พ่อแม่บางคน (๙)
    ทำร้ายลูกด้วยการไม่รู้จักสอนเขาให้รู้จักบาปบุญคุณโทษ  ผลก็คือ  เมื่อโตขึ้น  เขาจึงพร้อมผละหนีพ่อแม่ไปอย่างไม่รู้สึกผิด  ไม่เห็นความจำเป็นว่า  การเป็นลูกที่ดีนั้น  จะต้องกตัญญูกตเวทีต่อพ่อแม่ของตนอย่างไร
พ่อแม่บางคน (๑๐)
    ทำร้ายลูกด้วยการไม่สอนลูกให้รู้จักการบำเพ็ญตนเป็นผู้ให้ ผลก็คือเมื่อโตขึ้นเขาจึงกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ คิดแต่จะกอบโกย คิดถึงแต่ประโยชน์ส่วนตัวจนมองไม่เห็นหัวคนอื่น แทนที่จะถือหลัก “ยิ่งรวยยิ่งให้ ยิ่งได้ยิ่งแบ่ง”กลับถือหลัก “ยิ่งรวยยิ่งคอร์รัปชั่น ยิ่งแบ่งปันยิ่งสูญเสียเปล่า”
พ่อแม่บางคน (๑๑)
    ทำร้ายลูกด้วยการไม่ยอมให้ลูกรู้จักตัดสินใจด้วยตนเอง  ผลก็คือ  ลูกกลายเป็นคนขาดความเชื่อมั่นในตนเอง  ไม่กล้าคิด  ไม่กล้าพูด  ไม่กล้าทำอะไร  ส่งผลให้ไร้ภาวะผู้นำ  ต้องเดินตามคนอื่นโดยดุษฎี
พ่อแม่บางคน (๑๒)
    ทำร้ายลูกด้วยการไม่สอนให้ลูกรู้จักสมบัติของผู้ดี ผลก็คือเขากลายเป็นคนหยาบกระด้างทั้งทางกาย ทางใจ ใจคอโหดหินทมิฬชาติ ขาดความสุภาพอ่อนน้อม ขาดสัมมาคาราวะ ไม่รู้จักกาลเทศะ ไม่รู้จักประมาณตน ครองตน ครองงานไม่เป็น ไม่เห็นคุณค่าของระเบียบประเพณี กฎหมาย จรรยาจารีตของสังคม  ไม่เคารพในศักดิ์ศรีแห่งความเป็นคนดีของเพื่อนมนุษย์
พ่อแม่บางคน (๑๓)
    ทำร้ายลูกด้วยการไม่แนะนำให้ลูกรู้จักคบเพื่อนที่เป็นกัลยาณมิตร (เพื่อนแท้) ผลก็คือรอบกายของเขาจึงมีแต่บาปมิตร (เพื่อนเทียม) คอยประจบสอพลอ คอยหลอกล่อให้ทำความเลวทรามต่ำช้า ติดสุรา ยาเสพติด นำพาชีวิตไปในทางเสียหาย ตกอยู่ใต้วังวนของอบายมุข สนุกสนาน ไม่สนใจหาแก่นสารให้กับชีวิต
พ่อแม่บางคน (๑๔)
    ทำร้ายลูกด้วยการไม่รู้จักสร้างสภาพแวดล้อมให้ลูกเป็นคนรักการอ่าน รักการเขียน รักการเรียนรู้ รักการเดินทาง ปล่อยให้เขาศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเองไปตามยถากรรม ผลก็คือเขากลายเป็นคนหูตาคับแคบ ขาดความรู้พื้นฐาน ขาดความรู้รอบตัว ขาดความกระตือรือร้น ไม่มีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ การคิด พูด ทำ ไม่เฉลียวฉลาดปราดเปรื่อง ขาดความแหลมคม ตามไม่ทันโลก ตกข่าว เป็นคนว่างเปล่าทางความรู้ (รอบตัว) ความคิด จิตใจ และไม่มีรสนิยมอย่างอารยชน
ว.วชิรเมธี

ชื่อเมืองต่างๆ ของประเทศไทย ในประวัติศาสตร์

ชื่อเมืองต่างๆ ของประเทศไทย ในประวัติศาสตร์ 

 
    ชื่อเดิม     สองแคว                                       ชื่อปัจจุบัน     จังหวัดพิษณุโลก
     ชื่อเดิม     ศรีสัชนาลัย                                   ชื่อปัจจุบัน     จังหวัดสุโขทัย
     ชื่อเดิม     สระหลวง,โอฆะบุรี                         ชื่อปัจจุบัน      จังหวัดพิจิตร
     ชื่อเดิม     ฉอด                                            ชื่อปัจจุบัน     จังหวัดตาก
     ชื่อเดิม     แม่ละเมา                                      ชื่อปัจจุบัน     ต.แม่ละเมา อ.แม่สอด จังหวัดตาก
     ชื่อเดิม     พิชัย                                            ชื่อปัจจุบัน     อ.พิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์
     ชื่อเดิม     ทุ่งยั้ง,ศรีนพวงศ์                            ชื่อปัจจุบัน     จังหวัดอุตรดิตถ์
     ชื่อเดิม     ชากังราว,นครชุม                           ชื่อปัจจุบัน     จังหวัดกำแพงเพชร
     ชื่อเดิม     วิเศษไชยชาญ                                ชื่อปัจจุบัน     อ.วิเศษไชยชาญ จังหวัดอ่างทอง
     ชื่อเดิม     อโยธยา                                        ชื่อปัจจุบัน     จังหวัดอยุธยา
     ชื่อเดิม     ละโว้                                            ชื่อปัจจุบัน     จังหวัดลพบุรี
     ชื่อเดิม     บางระจัน                                      ชื่อปัจจุบัน     อ.บางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี
     ชื่อเดิม     ศรีวิชัย,นครไชยศรีทวาราวดี             ชื่อปัจจุบัน     จังหวัดนครปฐม
     ชื่อเดิม     แปดริ้ว                                         ชื่อปัจจุบัน     จังหวัดฉะเชิงเทรา
     ชื่อเดิม     อู่ทอง                                           ชื่อปัจจุบัน     อ.อู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี
     ชื่อเดิม     ดอนเจดีย์                                      ชื่อปัจจุบัน     อ.ดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี
     ชื่อเดิม     หนองสาหร่าย                                ชื่อปัจจุบัน     ต.หนองสาหร่าย จังหวัดสุพรรณบุรี
     ชื่อเดิม     สามโคก                                        ชื่อปัจจุบัน     จังหวัดปทุมธานี
     ชื่อเดิม     พระบาง,ปากน้ำโพ                          ชื่อปัจจุบัน     จังหวัดนครสวรรค์
     ชื่อเดิม     หริภุญไชย                                     ชื่อปัจจุบัน     จังหวัดลำพูน
     ชื่อเดิม     เขลางค์                                         ชื่อปัจจุบัน     จังหวัดลำปาง
     ชื่อเดิม     เวียงพิงค์                                       ชื่อปัจจุบัน     จังหวัดเชียงใหม่
     ชื่อเดิม     เงินยาง                                         ชื่อปัจจุบัน     อ.เชียงแสน จังหวัดเชียงราย
     ชื่อเดิม     สาครบุรี                                        ชื่อปัจจุบัน     จังหวัดสมุทรสาคร
     ชื่อเดิม    เสมา,โคราช                                    ชื่อปัจจุบัน     จังหวัดนครราชสีมา
     ชื่อเดิม    พิมาย                                             ชื่อปัจจุบัน     อ.พิมาย จังหวัดนครราชสีมา
     ชื่อเดิม    ขุขันธ์                                             ชื่อปัจจุบัน     จังหวัดศรีษะเกษ
     ชื่อเดิม    ไชยา                                              ชื่อปัจจุบัน     จังหวัดสุราษฎ์ธานี
     ชื่อเดิม    ศิริธรรมนคร                                    ชื่อปัจจุบัน     จังหวัดนครศรีธรรมราช
     ชื่อเดิม    ถลาง                                              ชื่อปัจจุบัน      จังหวัดภูเก็ต
     ชื่อเดิม    คลองวาน                                        ชื่อปัจจุบัน     จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
    ชื่อเดิม    ไชยนารายณ์                             ชื่อปัจจุบัน     จังหวัดเชียงราย
     ชื่อเดิม     นันทบุรี                                          ชื่อปัจจุบัน     จังหวัดน่าน
     ชื่อเดิม     บ้านตลาดแก้ว                                  ชื่อปัจจุบัน     จังหวัดนนทบุรี
     ชื่อเดิม     ดอนมดแดง                                     ชื่อปัจจุบัน     จังหวัดอุบลราชธานี

ขอบคุณข้อมูลจาก : thaigoodview