วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ทำไมเราต้องมี...ความรัก

เคยถามตัวเองบ้างไหม...ว่าทำไมเราต้องมี "ความรัก"
เคยถามตัวเองบ้างไหม...ว่าทำไมเราต้องรักคนๆ หนึ่งมากกว่าตัวเอง
เคยถามตัวเองบ้างไหม...ว่าทำไมเราต้องคิดถึงเค้าก่อนคนอื่นเสมอ
เคยถามตัวเองบ้างไหม...ว่าทำไมเราต้องแคร์เค้ามากกว่าทุกสิ่ง
เคยถามตัวเองบ้างไหม...ว่าทำไมเราต้องรอคอยเค้า
เคยถามตัวเองบ้างไหม...ว่าทำไมเราต้องเสียใจเพราะเค้าไม่รัก
เคยถามตัวเองบ้างไหม...ว่าทำไมเราต้องยิ้มได้ถ้าเค้ามีความสุข
เคยถามตัวเองบ้างไหม...ว่าทำไม เราต้องเสียน้ำตาเพราะเรื่องของเค้า

ถ้าคุณตอบตัวเองได้ทั้งหมด...
ความรักของทุกคนก็คงออกแบบได้
ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว...
ไม่มีใครเคยออกแบบความรักได้อย่างสวยหรู
ไม่มีใครกำหนดความรัก ให้มันเป็นไปตามใจต้องการ
เพราะ "ความรัก" มักใช้ "ความรู้สึก" มากกว่า "เหตุผล"     
เพียงแค่คุณเปิดใจยอมรับกับมัน
และทำทุกสิ่งทุกอย่างให้มีความสุข
แค่นี้คุณก็จะตอบตัวเองได้แล้วว่า
เรามี "ความรัก" เพราะอะไรหลายคนอาจมีความรักหลายคนเคยอกหักหลายคนเคยผิดหวังหลายคนเคยท้อแท้หลายคนเคยเข็ดกับความรักหลายคนเคยเสียน้ำตาหลายคนเคยคิดสั้นหลายคนเคยมองว่าตัวเองโง่แต่เราก็อยู่ได้เพราะความรักรักไม่ได้ทำร้ายใครแต่เราต่างหากที่ทำร้ายตัวเองเปิดใจรับมันแล้วชีวิตจะมีความสุข >.<....!!!

รัก 6 ประเภท
        วันนี้มีรูปแบบของความรักมาฝากให้คิดกันว่า . . . ความรักของคุณในตอนนี้เป็นแบบไหนกันบ้าง
 >1. ความรักแบบเสน่หา (Eros)
        ความรักเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต แม้จะไม่มากพอที่จะทำลายตนเอง หรือรู้สึกถูกใจอีกฝ่ายตั้งแต่แรกเห็น คล้ายรักแรกพบ ความดึงดูดใจซึ่งกันและกัน การแสดงออกมาทั้งคำพูดและการแสดงความใกล้ชิด อยากเจอกันทุกวัน ถ้าเป็นไปได้ วาดฝันเกี่ยวกับอีกฝ่ายไว้งดงาม และไม่ได้คาดการณ์ถึงอุปสรรคใดๆ
        คู่รักประเภทนี้พยายามพัฒนาสัมพันธภาพกับคู่ของตนอย่างรวดเร็ว โดยการเปิดเผย ซื่อสัตย์ และจริงใจ ใส่ใจคู่รักมากเป็นพิเศษ แต่ไม่แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของหรือกลัวว่าจะมีคู่แข่ง
 >2. ความรักแบบไม่ผูกมัด (Ludus)
        ความรักเป็นเกมชนิดหนึ่ง เพื่อความบันเทิงของทั้งสองฝ่าย หลีกเลี่ยงการผูกมัด สามารถผลัดเปลี่ยนคู่ไปได้เรื่อยๆ พยายามที่จะไม่สร้างความผูกพันทางอารมณ์อย่างลึกซึ้งกับใคร เพื่อรักษาความเป็นอิสระของตน ถึงแม้จะไม่ต้องการทำให้อีกฝ่ายเจ็บปวด แต่การโกหกและความไม่จริงใจถือว่าเป็นการเล่นตามกติกาที่มี
        ความรักแบบนี้จะไม่หึงหวง หรือแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ และอาจเห็นชอบให้คู่ของตนมีความสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ ทั้งนี้เพื่อสร้างความสมดุลในความสัมพันธ์ของตน
>3. ความรักแบบมิตรภาพ (Storge)
        ความรักพัฒนามาจากมิตรภาพ เป็นความรู้สึกรักใคร่อันเนื่องมาจากการคบหากันมาเป็นเวลานาน  ไม่ได้มีความรู้สึกตื่นเต้น เร่าร้อน แต่เน้นการกระทำที่ทั้งสองฝ่ายมีความสนใจร่วมกันและมีกิจกรรมร่วมกัน ความรักเป็นสิ่งที่มั่นคง ที่ผนวกเข้าไปกับการดำรงชีวิตตามปกติ
 >4. ความรักแบบลุ่มหลง (Mania)
        ผู้ที่มีความรักแบบนี้จะใฝ่หาความรัก แต่เชื่อว่าความรักเป็นความเจ็บปวด ปรารถนาความใกล้ชิดและต้องการความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ต้องการให้คู่รักของตนแสดงความรักมากกว่าปกติ เมื่อใดที่คู่รักไม่ได้แสดงความใส่ใจ หรือไม่แสดงความรักตามที่ปรารถนา อาจจะทำร้ายตนเอง เพื่อเอาชนะความรัก คู่รักประเภทนี้เชื่อว่า เมื่อปราศจากความรักจากอีกฝ่าย ชีวิตก็ไม่มีคุณค่าอีกต่อไป
> 5. ความรักแบบมีเหตุผล (Pragma)
        เป็นความรักที่ตั้งอยู่บนรากฐานของความเป็นจริง ผู้ที่มีความรักแบบนี้จะแสวงหาคู่ที่เหมาะสมกับตนมากที่สุด เชื่อว่าความสัมพันธ์จะราบรื่นก็ต่อเมื่อคู่รักสามารถตอบสนองความต้องการพื้นฐานของกันและกัน ได้แสวงหาคนที่มีลักษณะคล้ายตนหรือต่างจากตน แต่ช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาด การเลือกคู่จะมีลักษณะคล้ายรักเผื่อเลือก ทั้งนี้ก็เพราะคาดหวังสัมพันธภาพที่ยั่งยืน
 >6. ความรักแบบเสียสละ (Agape)
        เป็นความรักที่ปราศจากความเห็นแก่ตัว ต้องการเป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ มีความห่วงใย และคำนึงถึงความสุขของคู่รักเป็นสำคัญ โดยไม่ใส่ใจกับความต้องการของตนเอง "การให้" เป็นปัจจัยสำคัญของความรักแบบนี้ นักจิตวิทยาได้ทำการศึกษาพบว่า ในชีวิตจริงคู่สมรสจะมีรูปแบบความรักที่คล้ายคลึงกัน เมื่อเปรียบเทียบระหว่างคู่ที่มีความสัมพันธ์ยาวนานกับคู่ที่เลิกราไป พบว่าประเภทแรกจะมีความรักแบบเสน่หาสูงกว่า และมีความรักแบบไม่ผูกมัดต่ำกว่าประเภทหลัง รูปแบบของความรักอาจเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา และลักษณะของบุคคลที่เรามีความสัมพันธ์ด้วย 
โดดเดี่ยวเดียวดายให้มีสุข
          ความรักของเราแต่ละคนอาจเริ่มต้นจากการพบกันโดยบังเอิญ
          มีเพื่อนแนะนำให้รู้จักกันตอนไปงานเลี้ยง งานวันเกิดเพื่อน
          ทำงานที่เดียวกัน   หรือรู้จักมักคุ้นกันตั้งแต่ยังเด็ก ฯลฯ
          ไม่ว่าเราจะพบเจอกันด้วยเหตุการณ์แบบไหน
          การเริ่มต้นของความรักก็มักเริ่มจากความสุขและความงดงามเสมอ
          มีความทรงจำและความประทับใจในกันและกันจนต้องสานสัมพันธ์ต่อ
          ทำความรู้จักตั้งแต่ผิวเผินจนมาเป็นคนรักกันในที่สุด
          แต่ใครจะไปรู้ว่าความรักครั้งนี้จะลงเอยอย่างไร
          ไม่ว่าจุดเริ่มต้นจะเป็นเช่นไร สุดท้ายก็มีแต่ความเศร้าอยู่ดี
          แม้เราจะพยายามทำใจให้ยอมรับกับความไม่แน่นอนบ้างแล้วส่วนหนึ่ง
          แต่เมื่อถึงเวลานั้นจริงๆ ก็ไม่มีใครห้ามน้ำตาไม่ให้มันไหลได้เลยสักคน
          ความรักนั้นมักถูกมองว่าเป็นเรื่องใหญ่อย่างหนึ่งในชีวิต
          จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทุกคนจะให้ความสำคัญกับมันมากเป็นพิเศษ
          และพยายามสืบเสาะหาใครคนนั้นที่จะมาเป็นคู่ชีวิต
          เพื่อที่จะมาร่วมสร้างความสุข   เสียงหัวเราะ   มอบรอยยิ้ม 
          มอบสิ่งดีๆ ให้แก่กัน สร้างอนาคตที่สดใส
          ใช้วันคืนและแบ่งปันความสุขความทุกข์ที่มีร่วมกัน
          เมื่อถึงวันนั้นเราจึงต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้มันอยู่กับเราไปนานๆ
          แต่ความรักมันก็เหมือนเรื่องอื่นๆ ในชีวิตที่เราได้แต่ทำให้ดีที่สุดเท่านั้น
          รักกันให้ดีๆ ทำแต่สิ่งดีๆ   พูดแต่สิ่งดีๆ   มอบแต่สิ่งดีๆ ให้คนที่เรารัก
          แต่มันจะลงเอยอย่างไรก็เป็นเรื่องของอนาคตที่ไม่อาจกำหนดผลได้
          จะสมหวังหรือผิดหวังก็เป็นเพียงสิ่งที่สามารถจะเกิดขึ้นได้ทั้งสองทาง
          เราคงไม่อาจไปทัดทานอะไรได้
          หากเขาเป็นคนที่ใช่...สุดท้ายมันก็คือใช่
          แต่หากเขาไม่ใช่...จะยื้ออย่างไรก็คงอยู่กับเราได้ไม่นานนัก  ก้อต้องทำใจ  ปล่อยเขาไปเถอะ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น